กล่องไปรษณีย์หลายขนาด

กล่องไปรษณีย์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว กล่องไปรษณีย์กลายเป็นส่วนสำคัญในการขนส่งสินค้า การเลือกกล่องที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันความเสียหายของสินค้า แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกล่องไปรษณีย์ประเภทต่างๆ เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสินค้าของคุณ

ประเภทของกล่องไปรษณีย์

เราสามารถแบ่งประเภทกล่องไปรษณีย์ได้ตาม 2 ลักษณะ คือ วัสดุและการใช้งาน

แบ่งตามวัสดุ

1.กล่องกระดาษลูกฟูก

เป็นกล่องที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และราคาไม่แพง โครงสร้างของกระดาษลูกฟูกประกอบด้วยกระดาษแผ่นเรียบประกบกับกระดาษลอนลูกฟูก ทำให้สามารถรับแรงกระแทกได้ดี

  • แบบธรรมดา: ทำจากกระดาษลูกฟูกทั่วไป มีความแข็งแรงในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไปที่ไม่ต้องการการปกป้องมากนัก เช่น เสื้อผ้าที่ไม่บอบบาง อุปกรณ์สำนักงาน หรือสินค้าแห้งอื่นๆ และมีราคาประหยัด
  • แบบ KA: ทำจากกระดาษ KA ซึ่งมีความหนาและแข็งแรงกว่ากระดาษลูกฟูกทั่วไป สามารถรับน้ำหนักได้มากและป้องกันการกระแทกได้ดีกว่า เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก สินค้าที่แตกหักง่าย หรือต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแก้ว หรือสินค้าที่ต้องการส่งในระยะทางไกล

2.กล่องกระดาษอาร์ตการ์ด

ทำจากกระดาษอาร์ตการ์ดที่มีผิวมัน เรียบ และสวยงาม เหมาะสำหรับการพิมพ์สีสันและลวดลายที่คมชัด มักใช้สำหรับพัสดุที่ต้องการความสวยงามและเพิ่มมูลค่า เช่น สินค้าพรีเมียม เครื่องสำอาง ของขวัญ หรือใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ต่างๆ แต่มีราคาสูงกว่ากล่องกระดาษลูกฟูกและไม่เหมาะกับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากนัก

แบ่งตามการใช้งาน

1.กล่องฝาชน

เป็นกล่องรูปแบบพื้นฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป ฝากล่องด้านบนและด้านล่างชนกันเมื่อปิดกล่อง ประกอบง่าย ราคาประหยัด เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไปและการขนส่งที่ไม่ต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ

2.กล่องฝาเกย

มีลักษณะคล้ายกับกล่องฝาชน แต่ฝากล่องด้านบนมีส่วนที่ยื่นออกมาเกยกับฝากล่องด้านล่าง ทำให้ปิดกล่องได้แน่นหนาขึ้น ป้องกันฝุ่นละอองและความชื้นได้ดีกว่า เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก

3.กล่องไดคัท

เป็นกล่องที่ผ่านกระบวนการไดคัท ทำให้มีรูปทรงและลวดลายที่หลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะทรงสี่เหลี่ยม สามารถออกแบบให้เหมาะสมกับสินค้าแต่ละประเภทได้อย่างลงตัว เช่น กล่องทรงกลม กล่องทรงสามเหลี่ยม หรือกล่องที่มีหน้าต่างโชว์สินค้า เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการความโดดเด่น สร้างความแตกต่าง หรือใช้เป็นบรรจุภัณฑ์เฉพาะของแบรนด์เพื่อเพิ่มมูลค่า

แล้วจะเลือกกล่องไปรษณีย์อย่างไรให้ตรงตามการใช้งาน

การเลือกกล่องไปรษณีย์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1.ประเภทสินค้า

  • สินค้าแตกหักง่าย: ควรเลือกกล่องกระดาษลูกฟูกแบบ KA หรือกล่องฝาเกย และใช้วัสดุกันกระแทกอย่างเหมาะสม
  • สินค้ามีน้ำหนักมาก: ควรเลือกกล่องกระดาษลูกฟูกแบบ KA ที่มีความแข็งแรงสูง
  • สินค้าที่ต้องการความสวยงาม: ควรเลือกกล่องกระดาษอาร์ตการ์ด หรือกล่องไดคัทที่มีดีไซน์สวยงาม

2.ขนาดและน้ำหนักสินค้า

วัดขนาดและชั่งน้ำหนักสินค้า เพื่อเลือกกล่องที่มีขนาดพอดีและรับน้ำหนักได้

3.งบประมาณ

กล่องกระดาษลูกฟูกแบบธรรมดามีราคาถูกที่สุด รองลงมาคือกล่องฝาเกย และกล่องไดคัทมีราคาสูงที่สุด

4.การขนส่ง

หากเป็นการขนส่งระยะทางไกลหรือต้องผ่านการขนส่งหลายขั้นตอน ควรเลือกกล่องที่แข็งแรงและทนทาน

ตัวอย่าง

  • ส่งเครื่องประดับขนาดเล็ก: เลือกกล่องกระดาษลูกฟูกเบอร์เล็ก เช่น เบอร์ 00 หรือ 0 และใช้วัสดุกันกระแทก เช่น บับเบิ้ลกันกระแทก
  • ส่งเสื้อผ้า: เลือกกล่องกระดาษลูกฟูกเบอร์ B หรือ C ขึ้นอยู่กับจำนวนเสื้อผ้า
  • ส่งแก้วเซรามิค: เลือกกล่องกระดาษลูกฟูกแบบ KA หรือกล่องฝาเกย และห่อหุ้มแก้วด้วยบับเบิ้ลกันกระแทกอย่างหนาแน่น

สรุป

การเลือกกล่องไปรษณีย์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการขนส่งสินค้า การทำความเข้าใจประเภทของกล่องและวิธีการเลือกใช้ จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องสินค้า ประหยัดค่าใช้จ่าย และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้