ภาพคนกำลังนั่งจดบันทึกเกี่ยวกับการตลาด โดยมีหนังสือและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ Marketing Trends วางอยู่ข้างๆ พร้อมข้อความ 'เจาะลึก เทรนด์การตลาดที่ Out แล้ว ในปี 2024'

เจาะลึก เทรนด์การตลาดที่ Out แล้ว ในปี 2024

เทรนด์การตลาดในปี 2024 กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ผู้ประกอบการและนักการตลาดต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เทรนด์ที่เคยเป็นที่นิยมในอดีตอาจไม่เหมาะสมอีกต่อไป ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองหาสิ่งใหม่ ๆ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ภาพคนกำลังใช้งานแล็ปท็อปที่แสดงผลหน้าเว็บไซต์เกี่ยวกับ 'Marketing Trends' พร้อมหนังสือเล่มเดียวกันวางอยู่ข้างๆ บนโต๊ะทำงาน พร้อมข้อความ 'เทรนด์การตลาดที่ Out แล้วในปี 2024 มีอะไรบ้าง'

เทรนด์การตลาดที่ Out แล้วในปี 2024 มีอะไรบ้าง

1.มองว่า Social Media และโฆษณาเป็นทางออก

การตลาดที่พึ่งพา Social Media และโฆษณาเพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นทางออกที่ดีอีกต่อไป เนื่องจากการตลาดในยุคนี้มีต้นทุนที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่ดุเดือด ผู้บริโภคมีความคาดหวังที่มากขึ้น และพวกเขาต้องการประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำจากสินค้าและบริการที่เลือกซื้อ

การมุ่งเน้นที่คุณภาพของสินค้าและบริการเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะถ่ายภาพและแชร์ประสบการณ์ของพวกเขาในโซเชียลมีเดีย หากสินค้าหรือบริการมีคุณภาพดีและสร้างความประทับใจ ลูกค้าจะมีแนวโน้มที่จะโพสต์เกี่ยวกับมันเอง ซึ่งจะช่วยสร้างการตลาดแบบปากต่อปากที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิม

ควรหลีกเลี่ยงการใช้การตลาดที่มีต้นทุนสูง

การพึ่งพาโฆษณาและการจ้าง Influencer อาจไม่คุ้มค่าในยุคนี้ เนื่องจากผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอนและต้นทุนที่สูง การกลับไปที่พื้นฐานของการสร้างสินค้าที่ดีและบริการที่มีคุณภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

2.ยึดติดจะใช้แต่ Social Media หรือ Online

การยึดติดกับการใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียวในการทำการตลาดนั้น อาจไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมอีกต่อไปในเทรนด์การตลาดปี 2024 เนื่องจากมีข้อจำกัดและความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น

  • ความเก่าของแนวคิด: แม้ว่าการใช้สื่อออนไลน์จะเป็นที่นิยมมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันนี้ถือเป็นแนวคิดที่ล้าสมัยแล้ว เนื่องจากทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานสื่อออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ความรู้ด้านดิจิทัลเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การแข่งขันในโลกออนไลน์รุนแรงมากขึ้น
  • การกลับมาของสื่อดั้งเดิม: ในปี 2024 การกลับมาใช้สื่อแบบดั้งเดิม เช่น สื่อนอกบ้าน โทรทัศน์ และวิทยุ อาจจะเป็นทางเลือกที่ได้ผลมากขึ้น เนื่องจากสื่อเหล่านี้มีข้อดีที่สำคัญคือ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ไม่จำเพาะเจาะจงเหมือนสื่อออนไลน์ ซึ่งอาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้และความนิยมในวงกว้าง
  • ให้ความสำคัญของประสบการณ์ที่สัมผัสได้: ในยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย การสร้างประสบการณ์ที่สัมผัสได้โดยตรงกับผู้บริโภคจึงมีความสำคัญมากขึ้น สื่อดั้งเดิมหลายประเภทสามารถสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีกว่าสื่อออนไลน์ เช่น การจัดกิจกรรมพบปะลูกค้า การให้ตัวอย่างสินค้า เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความผูกพันกับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

3.การมองลูกค้าด้วยเพศและอายุ

การมองลูกค้าผ่านมุมมองเพศและอายุเป็นแนวคิดที่ล้าสมัยในปี 2024 เนื่องจากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามอายุหรือเพศไม่สามารถสะท้อนถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าในยุคนี้ได้อีกต่อไป เพราะ

  • การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภค: ในอดีต การมองลูกค้าผ่านเพศและอายุถือเป็นวิธีการที่ใช้กันทั่วไป โดยมักจะมีการตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม เช่น เด็กๆ มักจะซื้อของเล่น ผู้ใหญ่จะมองหาสินค้าเพื่อการทำงาน และผู้สูงอายุจะมองหาสินค้าสำหรับการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ไลฟ์สไตล์ของผู้คนมีความหลากหลายมากขึ้น และเราอาจพบเห็นผู้สูงอายุที่ยังทำงานอยู่ หรือผู้ที่มีอายุน้อยที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการที่ไม่ตรงตามกลุ่มอายุของพวกเขา
  • การมองลูกค้าผ่านพฤติกรรมและความชอบ: การมองลูกค้าในลักษณะของ Persona ซึ่งเป็นการสร้างภาพรวมของลูกค้าจากพฤติกรรม ความชอบ และวิธีการคิดของพวกเขา จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Top 20% ที่มีมูลค่าและความสำคัญสูง จะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจพฤติกรรมการซื้อและความชอบของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง

4.การพึ่งพาโปรโมชั่นมากเกินไป

การพึ่งพาโปรโมชั่นมากเกินไปในเทรนด์การตลาด 2024 นี้ ถือเป็นแนวทางที่ล้าสมัยและไม่เหมาะสม เนื่องจากลูกค้าทุกวันนี้มีการรับรู้และประสบการณ์กับโปรโมชั่นมากมาย จนทำให้พวกเขาชาชินและไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือสนใจอีกต่อไป การลดราคาหรือการใช้โปรโมชั่นบ่อยครั้งอาจส่งผลให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของสินค้าลดลง และไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ เนื่องจาก

  • การลดราคา: การลดราคาสินค้าอาจดูเหมือนจะเป็นวิธีการที่ดีในการดึงดูดลูกค้า แต่ในความเป็นจริง มันอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้านั้นมีคุณค่าต่ำลง การมุ่งเน้นที่การลดราคาอาจทำให้แบรนด์สูญเสียความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจของลูกค้า ลูกค้าในยุคนี้ไม่ได้มองหาสินค้าที่ถูกที่สุด แต่ต้องการสินค้าที่มีคุณค่าและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
  • การสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์: ในปี 2024 แบรนด์ควรกลับไปโฟกัสที่การสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า โดยการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่ดี การมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีความหมายจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า แบรนด์ควรพยายามทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่การขายสินค้า แต่เป็นการนำเสนอสิ่งที่ดีและมีคุณค่าให้กับลูกค้า
  • โปรโมชั่นที่สร้างความรู้สึกพิเศษ: โปรโมชั่นที่เหมาะสมในปีนี้ควรทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและมีคุณค่า เช่น การจัดกิจกรรมพิเศษเฉพาะกลุ่มลูกค้า การมอบของขวัญหรือสิทธิพิเศษในโอกาสพิเศษ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์

สรุป

เทรนด์การตลาดในปี 2024 กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แนวทางเดิม ๆ ไม่สามารถใช้ได้ผลอีกต่อไป การมองหาวิธีการใหม่ ๆ ในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น กลับไปโฟกัสที่สินค้าและบริการ สร้างคุณค่าและความโดดเด่น, อย่ามองลูกค้าแบบเดิมๆ มุ่งเน้นไปที่พฤติกรรม ความชอบ และวิถีชีวิตของลูกค้า, ลดการพึ่งพาโปรโมชั่น เพื่อรักษามูลค่าของแบรนด์ และใช้เครื่องมือ Social Media ให้หลากหลาย เพื่อกระตุ้นยอดขายค่ะ