สติ๊กเกอร์กันปลอม คืออะไร? มีกี่ประเภทและทำงานอย่างไร
อยากรู้ว่าสติ๊กเกอร์กันปลอม คืออะไร? บทความนี้มีคำตอบ! เจาะลึกหลักการทำงาน ประโยชน์ และสติ๊กเกอร์ 4 ประเภทหลักที่ช่วยปกป้องแบรนด์ของคุณจากของปลอม
รู้หรือไม่ว่า “ภาษีป้าย” มีความสำคัญกับการ ทำป้ายธงญี่ปุ่นหน้าร้าน อย่างไร และป้ายหน้าร้านแบบไหน ต้องเสียภาษีป้ายบ้าง และถ้าไม่เสียภาษี จะส่งผลอย่างไร ซึ่งหากใครที่เปิดร้านเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือร้านขายของทั่วไป ที่มีป้ายหน้าร้าน คงอาจเคยได้ยินคำว่า “ภาษีป้าย” กันมาบ้าง แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่าภาษีดังกล่าวเป็นแบบไหน ราคาเท่าไรบ้าง เราไปหาคำตอบกับ Bangkokquickprint.com กันเลยค่ะ
“ภาษีป้าย” คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากธุรกิจร้านค้าที่มีการติดตั้งป้ายโฆษณาสินค้าต่างๆ โดยผู้ที่เป็นเจ้าของป้ายที่นำมาติดจะต้องเสียภาษีป้าย แม้จะเป็นป้ายขนาดเล็ก หรือเป็นป้ายผ้าใบขนาดใหญ่ ก็ต้องเสียภาษีป้ายทั้ง 2 แบบ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถวางแผนได้ก่อนที่จะสั่งทำป้ายธงญี่ปุ่นหน้าร้าน ว่าควรทำป้ายดีหรือไม่ หากทำแล้วต้องเสียภาษีป้ายเท่าไร โดยประเภทป้ายที่ต้องเสียภาษี มีดังต่อไปนี้
นอกจากจะมีป้ายธงญี่ปุ่นที่ต้องเสียภาษีแล้ว ก็ยังมีป้ายอื่นๆที่ต้องเสียภาษี ได้แก่ป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมาย ที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการ เพื่อหารายได้หรือใช้โฆษณาการค้า ไม่ว่าจะเป็นป้ายชื่อ ป้ายหน้าร้าน ป้ายไฟ ป้ายดิจิตอล ป้ายที่สามารถเคลื่อนไหวได้ ป้ายเครื่องหมายที่ใช้ประกอบการค้า
ซึ่งอาจจะแสดงในรูปแบบของ โลโก้ ตัวอักษร รูปภาพ หรือเครื่องหมายอื่นๆ ที่ทำขึ้นด้วยการพิมพ์ การเขียน แกะสลัก หรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น ลงบนวัตถุใดๆ ก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็ยังมีป้ายธงหน้าร้านที่ได้รับการยกเว้นเสียภาษีด้วยเช่นกัน ได้แก่
ในการรับทำป้ายธงญี่ปุ่นหน้าร้าน เราสามารถออกแบบป้ายได้อย่างหลายแบบหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมต่อร้านค้านั้นๆ บางป้ายอาจมีภาษาไทยอย่างเดียว หรือมีภาษาต่างประเทศ และมีรูปภาพหรือเครื่องหมายอื่นๆ ด้วย ซึ่งมีผลต่อการคำนวณป้ายภาษี โดยประเภทป้ายสามารถแบ่งได้ตามแบบอักษรที่ใช้ ดังนี้
หมายเหตุ: ภาษีป้ายจะเรียกเก็บเป็นรายปี โดยมีอัตราภาษีป้ายขั้นต่ำ 200 บาท แต่หากคำนวณพื้นที่ป้ายแล้ว มีเศษเกิน 250 ตร.ซม. ให้คิดเป็น 500 ตร.ซม.
หากคุณเปิดร้าน ไม่ว่าจะร้านใดก็ตาม แล้วได้สั่งทำป้ายธงญี่ปุ่นหน้าร้าน และได้นำมาติดตั้งบริเวณร้านค้าเรียบร้อยแล้วนั้น จำเป็นจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย (ภ.ป.1) เพื่อชำระภาษีป้าย ที่สำนักงานเขตหรืออำเภอ บริเวณพื้นที่ที่ติดตั้งป้ายภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ส่วนป้ายที่ติดตั้งใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงหลังเดือนมีนาคม ให้ยื่นแบบภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ติดตั้งป้าย
หมายเหตุ: เอกสารอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่
เมื่อยื่นเอกสารกับทางหน่วยงานเรียบร้อยแล้ว จะได้ใบแจ้งการประเมินภาษีจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ จากนั้นสามารถเลือกชำระเงินภาษีได้ที่
หมายเหตุ: หากชำระภาษีเกินระยะเวลาที่กำหนดและมีเงินเพิ่ม สามารถชำระได้ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ
ในกรณีที่ทำป้ายธงญี่ปุ่นหน้าร้าน และได้มาติดตั้งแล้ว หากเจ้าของร้านไม่ได้ทำการยื่นแบบชำระภาษี หรือไม่ชำระเงินค่าภาษีตามกำหนด จะมีผลดังต่อไปนี้
เพราะภาษีป้ายนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับร้านค้าที่มีการติดตั้งป้ายประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่กฎหมายบังคับ โดยสำหรับใครที่เปิดร้านค้าเป็นของตนเอง ก็อย่าลืมดำเนินการให้ถูกต้องด้วยการไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย และชำระค่าภาษีป้ายให้เรียบร้อย โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอทุกพื้นที่
และสำหรับใครที่สนใจ ป้ายธงญี่ปุ่น ป้ายหน้าร้าน ป้ายตู้ไฟ และป้ายอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Bangkokquickprint.com ได้เลยที่ 082-359-2429 , 094-326-1629 หรือแอดไลน์ @bangkokquickprint
https://www.เพื่อนแท้ร้านอาหาร.com/restaurant404
https://www.bangkokbiznews.com/business/968987